AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาให้มีความคล้ายกับสมองของมนุษย์ มีความสามารถในการรับรู้สถานะการณ์ต่างๆได้ มีความสามารถในการเรียนรู้เองได้ สามารถคิด วิเคราะห์และตัดสินใจเองได้ AI ไม่ใช่สิ่งที่ใหม่เพราะมีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1956 มาจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่ AI กำลังได้รับความสนใจก็เพราะ AI มีความฉลาดมากขึ้น บางเรื่องสามารถทำได้ดีกว่ามนุษย์แล้ว ปัจจุบันงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง AI และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง AI นั้นมีมากเป็นอันดับที่ 1 เทียบกับงานวิจัยในเรื่องอื่นๆ ทำให้สามารถคาดเดาได้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ AI จะมีผลกับชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจในการนำ AI เพื่อใช้ในการวิเคราะห์โอกาสที่จะเกิดหัวใจล้มเหลวได้โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจาก MRI งานวิจัยชิ้นนี้เกิดจากนักวิจัยจาก Medical researchers from Queen Mary University of London ใช้ AI และ Big Data มาทำการวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลจากภาพ MRI โดยปกติแล้ว MRI นั้นจะเป็นการตรวจร่างกายโดยใช้ภาพเสมืองจริงในส่วนต่างๆของร่างกาย ใช้สนามแม่เหล็กและคลื่นวิทยุฉายเข้าไป โดยอาศัยการสะท้อนกลับของเครื่องและอาศัยคอมพิวเตอร์สร้างเป็นภาพขึ้นมา งานวิจัยนี้มีการนำภาพกว่า 17,200 ภาพวิเคราะห์ว่าภาพจาก MRI ในภาวะที่หัวใจปกตินั้นเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าหาก AI วิเคราะห์ภาพจาก MRI แล้ววิเคราะห์ว่าหัวใจไม่อยู่ในภาวะปกติ ก็อาจจะเป็นความเสี่ยงที่หัวใจที่มีโอกาสล้มเหลวได้
3. AI กับการลงทุน
การนำ AI นั้นสามารถนำมาใช้กับการลงทุนได้โดยเฉพาะการซื้อขายหลักทรัพย์ การซื้อขายหุ้น ปกตินั้นการจะวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจซื้อหุ้นซักหนึ่งตัวนั้นจะต้องอาศัยข้อมูลกราฟย้อนหลัง ข้อมูลทางการเงินต่างๆในการวิเคราะห์ หากหุ้นตัวไหนอยู่ในเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่น่าสนใจ เช่น ราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำแล้ว นักวิเคราะห์ก็จะแนะนำให้เข้าซื้อ แต่ปัจจุบันเราจะใช้ AI เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา ช่วงเวลาการซื้อขายที่ผ่านมา ราคาเปิด-ปิด ซึ่ง AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังได้มากกว่าและสามารถวิเคราะห์หุ้นหลายพันตัวในระยะเวลาไม่กี่นาที โดยใช้อัลกอริทึมมาเป็นเงื่อนไงในการซื้อหรือขายหุ้นนั้นๆ ใน AI บางตัวสามารถสร้างอัลกอริทึมโดยสามารถรับส่วนของข้อมูลต่างๆเข้าไปได้ด้วย เช่น ข่าวสาเกี่ยวกับราคาน้ำมัน ทองคำ การเมือง ข่าวต่างๆที่มีผลกระทบที่อาจส่งผลต่อราคา นอกจากนั้น AI ยังสามารถพัฒนาเรียนรู้จากข้อมูลและอัลกอริทึมต่างๆ เพื่อสร้างผลกำไรทำให้มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจบันเริ่มมีการสร้างระบบ Trading แบบอัตโนมัติโดยไม่ใช่นักวิเคราะห์แล้ว ซึ่งในบางระบบก็สามารถสร้างกำไรให้กับนักลงทุนได้อย่างมหาศาล
4. การตลาดแบบอัจฉริยะ
การนำ AI มาใช้ในการตลาดจะเป็นการสร้างการตลาดแบบอัจฉริยะโดยนำข้อมูลการเข้าเว็บไซต์ การค้นหาต่างๆ การดูวีดีโอ การกด like การเข้าดูสินค้า ข้อมูลการสมัครสมาชิก เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลแล้วสร้างเป็นการตลาดแบบอัจฉริยะขึ้นมา ทำให้การแสดงผลโฆษณาในแต่ละเครื่องนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป การนำเสนอโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ทำให้การแสดงโฆษณาล้วนเป็นสินค้าที่เรามีโอกาสที่จะซื้อมากที่สุด
เกษตรกรรมในอนาคตจะเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดไม่ต้องใช้คนอีกต่อไป โดยการเกษตรในยุคอนาคตนั้นจะใช้เทคโนโลยีต่างๆ ผสานเข้ากับ AI เพื่อสร้างผลผลิตที่ได้คุณภาพที่ดีที่สุดออกมา